3 นิสัยที่จะทำให้คนใช้ AI “สมองไม่ฝ่อ”

3 นิสัยที่จะทำให้คนใช้ AI “สมองไม่ฝ่อ”

May 17, 20252 min read

ความเดิมตอนที่แล้ว .. ตอน 1

เราเริ่มเห็นแล้วว่า AI เข้ามาแทนที่ “กระบวนการคิด” อย่างไร

.

ตอน 2 เรารู้ว่า สมองเรามีทางลัด (System 1)

ที่เรามักใช้โดยไม่รู้ตัว และ AI กำลังสนับสนุนให้เราเดินลัดจนไม่ต้องคิดเอง

.

ตอน 3 เรากำลังเข้าสู่ “ยุคข้อมูลเท็จ” ใครพูดคล่อง คนนั้นพูดถูก

.

ตอนสุดท้าย แต่เราจะเริ่ม “ฝึกสมอง” ให้รอด ทั้ง #รู้คิด และ #แข็งแรง

ด้วยสิ่งที่ Microsoft Research เรียกว่า Metacognitive Skills

Metacognition คือความสามารถในการรู้ตัวว่ากำลังคิดอะไร

และกำลังใช้วิธีคิดแบบไหน

Microsoft เรียกสิ่งนี้ว่า framework สำคัญของการใช้ AI อย่างชาญฉลาด

ไม่ใช่แค่เชิงประสิทธิภาพ แต่เพื่อไม่ให้ “เสียตัวตนทางปัญญา”

ไปกับระบบอัตโนมัติ Microsoft Research


ทำไมเราต้องฝึก Metacognition ก่อนที่สมองจะชินกับการไม่คิด?

เพราะงานวิจัยชี้ว่า เมื่อเราพึ่งพา AI เพื่อคำตอบมากเกินไป

สมองจะค่อย ๆ ลดการใช้กระบวนการวิเคราะห์ ประเมิน และวางแผน

Metacognition ไม่มีขาย และไม่ใช่สิ่งที่เกิดเอง แต่ต้อง “ฝึกเท่านั้น”

3 นิสัย ที่อิงจากทั้งงานวิจัยและการปฏิบัติจริง

ที่จะช่วยฟิตกล้ามเนื้อสมองของคุณให้ไม่กลายเป็นคนที่ AI คิดแทน


นิสัยที่ 1 : ฝึกคิดด้วยตัวเองก่อนใช้ AI (Manual Mental Reps First)

AI แยกประเด็นได้ แต่ "ความเข้าใจ" ต้องเกิดจากคุณ

เหมือนการดูคนอื่นออกกำลังกายไม่ทำให้กล้ามคุณแข็งแรง การให้ AI คิดแทนตลอดก็ไม่ฝึกสมองคุณ

แบบสำรวจปี 2025 พบว่า 41% ของผู้ใช้ AI เริ่มต้นด้วยการถาม AI ก่อนคิดเอง

เท่ากับว่า คนเกือบครึ่งเลือกใช้เครื่องมือก่อนลงมือพยายาม — ข้ามขั้นตอนวอร์มอัพสมองไปเลย

การใช้ AI ทันทีอาจช่วยให้คุณคุ้นเคยกับเครื่องมือ

ซึ่ง มันเข้าทางสมอง ที่ชอบ "หลีกเลี่ยงความยาก"

วิธีฝึก:

  • ก่อนถาม AI หยุดสักนิด

  • ลองแก้ปัญหา/เขียน/สรุปความเห็นเองก่อน แล้วค่อยใช้ AI ปรับแต่ง

  • ฝึกใช้สมองก่อน ใช้ AI เป็นตัวเสริม

เหตุผล: การดิ้นรนคือพื้นฐานของการเรียนรู้ (Heather McGowan)

"คุณจะเรียนรู้ได้ดีกว่า เมื่อพบสิ่งที่ทำให้ตัวเองประหลาดใจ

มากกว่าฟังเรื่องน่าตกใจเกี่ยวกับคนอื่น" — Daniel Kahneman

การคิดเองพัฒนาสัญชาตญาณ การจับรูปแบบ และความจำระยะยาว


นิสัยที่ 2: ตรวจสอบคำตอบ AI เหมือนเทรนเนอร์ตรวจท่า (Think Like a Form Coach)

คำตอบ AI อาจ ดู สวยงาม แต่ไม่เสมอไปว่าถูกต้อง

เหมือนท่าสควอชที่ดูดีอาจทำผิด เสี่ยงบาดเจ็บ!

วิธีฝึก:

ทุกครั้งที่ได้คำตอบจาก AI ถาม 3 ข้อนี้:

  1. ข้อมูลนี้แม่นยำจริงไหม?

  2. อะไรที่ขาดหายไป?

  3. AI สร้างจากสมมติฐานอะไร — และฉันเห็นด้วยไหม?

เหตุผล:

AI เสนออย่างมั่นใจ จนเราหลงเชื่อแม้มันผิดมหันต์

(Stanford Research พบว่าการขอให้ AI อธิบาย เหตุผล ช่วยลดนิสัยพึ่ง AIได้)

"ความคุ้นเคยมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นความจริง" — Daniel Kahneman

ดังนั้นอย่าเชื่อคำตอบที่ดูดีจาก AI ง่ายๆ


นิสัยที่ 3: สะท้อนคิดก่อนเดินหน้าต่อ

(Spot Yourself Before You Wreck Yourself)

AI ช่วยผลิตผลงานไว แต่ "ปริมาณ" ไม่เท่ากับ "ความเข้าใจ"

หลังใช้ AI อย่าเพิ่งข้ามไป — หยุดและถาม:

  • ฉันเรียนรู้อะไรจริงๆ จากเรื่องนี้?

  • ฉันอธิบายให้คนอื่นเข้าใจง่ายๆ ได้ไหม?

  • ฉันจะตัดสินใจแบบเดิมอีกไหม?

เหตุผล:

นี่คือ "System 3" ที่ตรวจสอบทั้งสัญชาตญาณ

(System 1) และตรรกะ (System 2) ของคุณ มันถามว่า:

  • เรา คิดเอง หรือแค่ตอบสนองต่อสิ่งที่ AI ให้มา?

  • ทำไมฉันถึงใช้ prompt แบบนั้น?

  • ฉันได้สิ่งที่ต้องการ หรือแค่สิ่งที่ง่าย?

บทสรุปสุดท้าย :

อันตรายที่สุดไม่ใช่การถูก AI แทนที่

แต่คือการปล่อยให้สมองอ่อนแอลงขณะ AI แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน

ทางรอดคือ Metacognitive Skills — การคิดเกี่ยวกับการคิด ฝึกด้วย 3 ขั้นตอน: หยุด ตั้งคำถาม สะท้อนคิด

"ทักษะเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ predictable โอกาสฝึกฝน และ feedback ชัดเจน" — Kahneman

AI ให้ผลลัพธ์ แต่ไม่ให้ feedback หรือการคิดไตร่ตรอง — นั่นคือหน้าที่ของคุณ

ฝึกสมองเหมือนกล้ามเนื้อ: คิดก่อนถาม ตรวจสอบคำตอบ สรุปความเข้าใจ

นี่คือวิธีรักษาสมอง ในวันที่เราไม่รู้ว่า AI จะพามนุษยชาติไปไกลแค่ไหน

#ขอบคุณที่ติดตาม #เราจะเรียนรู้ไปด้วยกัน


Ref : Carla Dewing How Smart People Get Dumber with AI (+What to Do About It)

รุ่งพร มีศิลป์ - บทความ

เจติยา เฉยรอด - ภาพประกอบ

Back to Blog