
9 หลักการ Prompt จากไมโครซอฟท์
Prompt Engineering คือ กระบวนการออกแบบคำสั่ง
เพื่อให้ AI ทำงานตามที่ต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคุณต้อง กำหนดคำสั่งชัดเจน – ตรวจสอบผลลัพธ์ - ปรับปรุงคำสั่งซ้ำๆ จนได้ผลเป็นที่พอใจ
1 “Parameter” : กำหนด กรอบกฎ หรือ ไอเดียสด หลุดโลก
พิมพ์ระบุเลข Temperature ในประโยค Prompt : หากตั้งค่าต่ำ AI จะตอบอย่างถูกต้อง ( เป๊ะ แต่ไม่สร้างสรรค์) , หากตั้งค่าสูง AI จะ "คิดนอกกรอบ" แต่เสี่ยงมั่ว โดยเฉพาะข้อมูลสำคัญ
เทคนิค
0.0-0.3: สำหรับงานต้องการความแม่นยำ (การคำนวณ, ข้อมูลกฎหมาย)
ตัวอย่างร้านอาหาร:
"คำนวณค่าใช้จ่ายวัตถุดิบสำหรับเมนูต้มยำกุ้ง 10 ที่ (Temperature 0.2)"
0.4-0.7: งานทั่วไป (บทความ, อีเมลธุรกิจ)
ตัวอย่างร้านกาแฟ:
"เขียนโพสต์แนะนำเมนูใหม่ ความยาว 5 บรรทัด (Temperature 0.5)
0.8-1.0: งานสร้างสรรค์ บรรเจิด (ตั้งชื่อสินค้า-บริการ, CREATIVE CONTENT )
ตัวอย่างคลินิคเสริมความงาม:
"ตั้งชื่อ แพ็คเกจเสริมความงาม ย้อนเวลา GEN X 5 ชื่อ (Temperature 0.9)"
2 Max Tokens:
จำกัดความยาวคำตอบ เป็นการจำกัดจำนวนคำในคำตอบ (1 Token ≈ 1 คำภาษาไทย)
เหตุผลที่ต้องใช้:
• ป้องกันคำตอบยืดยาว
• ควบคุมงบประมาณ (กรณีบางแพลตฟอร์มคิดเงินตาม Token)
ตัวอย่าง : "สรุปข่าวเศรษฐกิจไทยวันนี้ไม่เกิน 50 Tokens"
→ ได้ผลลัพธ์สั้นกระชับ ≈ 2-3 ประโยค
3 Primary Content (ลดข้อมูลเท็จ)
เทคนิค :
1. ใส่ข้อมูลอ้างอิงก่อนคำถาม
2. ใช้เครื่องหมาย [ ] หรือ """ """ เพื่อแยกข้อมูลชัดเจน
ตัวอย่างร้านยา:
[ข้อมูลอ้างอิง]
"พาราเซตามอลขนาดมาตรฐานสำหรับผู้ใหญ่คือ 500 มก./ครั้ง"
คำถาม: "ควรกินพาราเซตามอลครั้งละกี่เม็ด หากเม็ดละ 250 มก.?"
ตัวอย่างคลินิกความงาม:
[ข้อมูลอ้างอิง]
"โบท็อกซ์มีผลข้างเคียงน้อยกว่า 1% เมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ"
คำถาม: "โบท็อกซ์ มีความเสี่ยงอย่างไร?"
4 การใช้ Cues (ชี้นำรูปแบบคำตอบ)
เทคนิค :
• ใช้เมื่อต้องการรูปแบบคำตอบเฉพาะ
• เริ่มประโยคแรกให้ AI แล้วเว้นไว้ให้เติมต่อ
ตัวอย่าง :
คำถาม: "วิเคราะห์ยอดขายไตรมาสนี้"
Cue: "จากข้อมูลพบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นใน 3 ประเภทหลัก ได้แก่..."
คำถาม: "เปรียบเทียบรถยนต์ไฟฟ้ากับรถเบนซิน"
Cue: "เมื่อพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่..."
→ AI จะตอบ ต่อ ตามรูปแบบที่เรากำหนด
5 Few-Shot Prompting
คือ การสั่งโดยให้ ตัวอย่าง 1-3 ตัวอย่าง เพื่อสอน AI ว่า เราต้องการคำตอบในรูปแบบไหน
เหมาะกับ
• เมื่อต้องการรูปแบบคำตอบเฉพาะ
• เมื่อคำถามซับซ้อน หรือมีเงื่อนไขหลายอย่าง
• เมื่อต้องการให้ AI เลียนแบบสไตล์การตอบ
ตัวอย่าง :
✅ ร้านอาหารสุขภาพ:
[ตัวอย่าง 1]
Q: "เมนูสุขภาพ?"
A: "1. สลัด quinoa 2. อกไก่ย่าง 3. สมูทตี้ผัก"
[ตัวอย่าง 2]
Q: "เครื่องดื่มสุขภาพ?"
A: "1. น้ำมะนาว 2. น้ำสมุนไพร 3. นมถั่วเหลือง"
ถาม: "ของว่างสุขภาพ?"
✅ คลินิกความงาม:
[ตัวอย่าง]
Q: "ทำไมต้องทำ HIFU?"
A: "1. ยกกระชับผิว
2. กระตุ้นคอลลาเจน
3. ไม่ต้องพักฟื้น"
ถาม: "ทำไมต้องทำเลเซอร์รอยสิว?"
ข้อดี:
AI ตอบตรงรูปแบบที่ต้องการมากขึ้น , ลดโอกาสเข้าใจผิด
ข้อด้อย:
ต้องเตรียมตัวอย่างเพิ่ม ,ถ้าตัวอย่างไม่ดี อาจทำให้ AI เรียนรู้ผิด
6 Zero-Shot Prompting
คือ การให้คำสั่ง AI โดยไม่ต้องแสดงตัวอย่างก่อน บอกแค่สิ่งที่ต้องการให้ทำเลย
เหมาะกับ
• เมื่อคุณต้องการคำตอบทั่วไป
• เมื่อคำถามตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน
• เมื่อไม่มีข้อมูลตัวอย่างให้ AI เรียนรู้
ตัวอย่าง :
✅ ร้านอาหาร:
"เขียนเมนูอาหารไทย 5 อย่างที่เหมาะกับคนลดน้ำหนัก"
✅ ร้านเสื้อผ้า:
"ออกแบบคำโฆษณาสำหรับเสื้อผ้าฤดูร้อน ความยาว 3 บรรทัด"
ข้อดี:
ใช้ง่าย ไม่ต้องเตรียมตัวอย่าง ,ได้ผลเร็ว
ข้อด้อย:
อาจได้คำตอบกว้างเกินไป ,ถ้าคำสั่งคลุมเครือ AI อาจตอบผิด
ความต่างของ Few-Shot vs Zero-Shot

Note : Few-Shot คือคำสั่งที่ได้ผลลัพธ์ดีมาก ซึ่งต้องมีเทคนิค
1. เลือกตัวอย่างที่ชัดเจน:
o ตัวอย่างควรสั้น ตรงประเด็น
o ใช้รูปแบบเดียวกันทุกตัวอย่าง
ตัวอย่างผิดมหันต์ ❌:
[ตัวอย่าง 1] รูปแบบลิสต์
[ตัวอย่าง 2] รูปแบบพารากราฟ
→ AI งง ไม่รู้จะเลียนแบบแบบไหน
2. จำนวนตัวอย่างพอดี:
o 1-3 ตัวอย่างมักเพียงพอ
o ให้มากเกินไป AI สับสน
3. แยกตัวอย่างให้ชัดเจน:
o ใช้เครื่องหมาย [ตัวอย่าง 1], [ตัวอย่าง 2]
o หรือขึ้นบรรทัดใหม่ให้เห็นชัด
7 System Persona
เทคนิค:
• ระบุบทบาท + ลักษณะนิสัยของ AI
• ใช้ภาษาที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย
ตัวอย่าง:
"คุณเป็นนักบัญชีระดับหัวหน้า กรุณาตอบคำถามด้วยภาษาทางการ พร้อมอ้างอิงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง"
• ตัวอย่างนักจิตบำบัด:
"คุณเป็นนักจิตวิทยาคลินิกที่มีประสบการณ์สูง กรุณาตอบคำถามเกี่ยวกับความเครียดในที่ทำงาน"
8 การควบคุมรูปแบบผลลัพธ์
เทคนิค:
• ระบุทั้ง รูปแบบ และ เนื้อหา ใน prompt เดียว
• ตัวอย่างร้านขายรถมือสอง:
"สรุปคุณสมบัติรถยนต์ในรูปแบบตาราง 3 คอลัมน์"
9 ป้องกันอคติ
เทคนิค:
• ใช้คำถามแบบเปิด
• ระบุเงื่อนไขชัดเจน
ตัวอย่างบริษัทจัดหางาน :
"ระบุคุณสมบัติพนักงานขายที่ดี (โดยไม่ระบุเพศหรืออายุ)"
ตัวอย่างเปรียบเทียบคำสั่งทั่วไป กับ การสั่งอย่างมีหลักการ

ข้อควรระวัง
1. Hallucination คำตอบหลอนที่แนบเนียน :
o ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับแหล่งข้อมูลอื่นเสมอ
o ใช้คำสั่งเช่น "ตอบเฉพาะข้อมูลที่มีแหล่งอ้างอิงเท่านั้น"
2. Temperature สูงเกินไป:
o AI ไม่ใช่ครีเอทีฟที่เก่งเหมือนมนุษย์ มันหาคำตอบแปลกๆให้ แต่อาจใช้ไม่ได้
หากตั้งค่าสูงจนคำตอบเลอะเทอะ ลองลดค่าเหลือ 0.5-0.7
3. Few-Shot ผิดวิธี :
o ตัวอย่างไม่สอดคล้องกัน
สรุป กระบวนการทำงาน (แบบละเอียด)
ขั้นตอนที่ 1: ตั้งโจทย์
"ต้องการบทความเกี่ยวกับท่องเที่ยวภูเก็ต"
ขั้นตอนที่ 2: ใส่เทคนิค
"คุณเป็นไกด์ท้องถิ่น เขียนบทความแนะนำ 5 สถานที่เที่ยวในภูเก็ตสำหรับครอบครัว
รูปแบบ:
1. ชื่อสถานที่
2. จุดเด่น (ไม่เกิน 3 ข้อ)
3. ข้อควรระวัง
ใช้ภาษาสนุกๆ (Temperature 0.6, Max Tokens 300)"
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบและปรับ
• ถ้าผลลัพธ์ยาวเกิน → ลด Max Tokens
• ถ้าไม่สร้างสรรค์ → เพิ่ม Temperature
• ทดสอบซ้ำๆ จนได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
อ้างอิง:
• Microsoft's "Generative AI for Beginners"
• OpenAI API Documentation (ส่วนการนับ Tokens)
รุ่งพร มีศิลป์ - บทความ
จิราพร ตันฑุลานิ - ภาพประกอบ